การบริจาคอวัยวะ กับ สภากาชาดไทย เหมือนเป็นการต่อชีวิตให้คนได้อีกหลายคน
การบริจาคอวัยวะเป็นการให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ที่ต้องการอย่างมากแต่เขาไม่สามารถหาได้จากตัวเอง สภากาชาดไทยเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ดูแลการบริจาคอวัยวะในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักให้กับประชาชนในเรื่องการบริจาคอวัยวะ และจัดการดูแลเรื่องการบริจาคอวัยวะให้เป็นไปตามหลักการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สภากาชาดไทยจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยมีสมาชิกประกอบด้วยผู้แทนจากหลายสาขาวิชาชีพทางการแพทย์ เช่น องค์กรแพทย์ไทย สภาอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมช่างทันตกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกในสภานี้มีหน้าที่เฝ้าระวังและควบคุมการบริจาคอวัยวะ ดูแลประชาสัมพันธ์ และพัฒนานโยบายเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะในประเทศไทย
การบริจาคอวัยวะเป็นเรื่องที่สำคัญและมีผลต่อชีวิตของผู้รับบริจาคและผู้ได้รับอวัยวะใหม่ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและหลักการทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริจาคและผู้ได้รับอวัยวะใหม่
กฎหมายในการบริจาคอวัยวะต้องเป็นไปตามหลักการสากล โดยผู้บริจาคอวัยวะจะต้องให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนการบริจาค และจะต้องไม่มีการบังคับหรือกดดันให้บริจาคอวัยวะเด็กหรือผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถตัดสินใจได้เอง นอกจากนี้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและหลักการทางการแพทย์เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้บริจาคอวัยวะและผู้ได้รับอวัยวะใหม่
การบริจาคอวัยวะต้องพิจารณาความเหมาะสมของผู้บริจาคและอวัยวะ โดยผู้บริจาคต้องผ่านการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจสอบว่าเหมาะสมกับการบริจาคอวัยวะหรือไม่ และอวัยวะที่บริจาคต้องเป็นอวัยวะที่สามารถใช้ได้จริง และไม่มีโรคติดต่อหรือโรคร้ายแรงที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ได้รับอวัยวะใหม่
การบริจาคอวัยวะ กับ การบริจาคร่างกาย ต่างกันอย่างไร
การบริจาคอวัยวะ | การบริจาคร่างกาย |
---|---|
คือการมอบอวัยวะ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่อวัยวะนั้นๆ เสื่อมสภาพ | คือการอุทิศรางกายให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา โดยเรียกกันว่า “อาจารย์ใหญ่” |
ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากภาวะสมองตายเท่านั้น (ยกเว้น ไต 1 ข้าง, ตับ, ไขกระดูก เป็นต้น ที่สามารถบริจาคได้ตอนยังมีชีวิตอยู่) | ผู้บริจาคเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ และมีอวัยวะครบ |
หลังผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะไปให้ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาค แพทย์จะตกแต่งร่างกายของผู้บริจาคให้เรียบร้อย แล้วมอบให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา | หลังจากการเสียชีิวิต ต้องแจ้งให้ไปรับร่างภายใน 24 ชั่วโมง หลังการศึกษา 2 ปี ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนั้น ๆ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลให้เอง |
รับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะจากทั่วประเทศ โดยติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย, เหล่ากาชาดจังหวัดทุกแห่ง, โรงพยาบาลประจำจังหวัด | แสดงความจำนงโดยติดต่อได้ที่คณะแพทยศาสตร์ทุกแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีเกณฑ์การรับอุทิศร่างกายต่างกัน |
คุณสมบัติผู้บริจาคอวัยวะ โดยทั่วไปมีรายละเอียด ดังนี้
1. อายุไม่เกิน 65 ปี
2. เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย
3. ปราศจากโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง
4. ไม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, หัวใจ, โรคไต, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ และไม่ติดสุรา
5. อวัยวะที่จะบริจาคต้องทำงานได้ดี
6. ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี, ไวรัสเอดส์ ฯลฯ
7. ควรแจ้งเรื่องการบริจาคอวัยวะให้บุคคลในครอบครัวหรือญาติรับทราบด้วย
อวัยวะที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ไต 2 ข้าง, ปอด 2 ข้าง, หัวใจ, ตับ, ตับอ่อน นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ลิ้นหัวใจ, หลอดเลือด, ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กระจกตา
1 ความคิดเห็น
สุขี ตันมี
31 ส.ค. 2566 12:09 น.