มารู้จักกับ บริษัทที่กำลังมาแรงในตอนนี้ Energy Absolute (EA) ผ่านบทสัมภาษณ์ในรายการทันหุ้น
ขอบคุณรูปจาก : https://www.kaohoon.com/wp-content/uploads/2019/11/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99-EA.jpg
จากรายการทันหุ้น
วันนี้ได้มีการให้สัมภาษณ์ คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA
ขอบคุณรูปจาก : https://s359.kapook.com/pagebuilder/4fdc13ee-d084-4046-9f86-d3a09aa5721c.jpg
ตอนนี้ EA ทำธุรกิจอะไรบ้าง
ซึ่งคุณอมรได้บอกเป็นภาพใหญ่ๆได้ 3 อย่างนะครับ
1 มีน้ำมันปาล์มน้ำมันปาล์มอันนี้ก็คือธุรกิจดั้งเดิมของเราที่เราทำมาตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะครับทุกวันนี้เราก็ยังทำอยู่นะครับ
2 โรงไฟฟ้าไฟฟ้าก็มองภาพใหญ่ก็เป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์กับพลังงานลมนะครับซึ่งเราก็ COD ทั้งหมด 600 กว่าเมกเรียบร้อยแล้วนะครับตั้งแต่ปีที่แล้ว
3.เป็นเรื่องของ EV ไม่ว่าจะเป็น รถพลังงานไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ตัว energy storage ระบบสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
ผมอยากให้คุณอมรชี้จุดเด่นของธุรกิจของเราหน่อยอย่างน้ำมันปลาม
น้ำมันปาล์ม จะแบ่งเป็น gen ใหม่ กับ gen เก่า
Gen เก่า ก็คือตัวไบโอดีเซล กับ เพียวริไฟกีเซอรีน ซึ่งทุกวันนี้เราก็ยังผลิตขาย nature oil ให้กับ ptt, esso, caltex, thail oil, rpc เอาจิงๆก็คือ น้ำมันดีเซลที่ประชาชนทั่วไปเติมนั่นแหละ
ส่วน เพียวริไฟลกีเซอรีน อันนี้เราจะส่งออกเกือบ 100 % เพียวริไฟคือส่วนผสมของสินค้าอุปโภค เช่น แชมพู ยาสระผม อะไรก็แล้วแต่ อย่างตอนนี้ที่ฮิตๆ ก็คือ เจลล้างมือ เป็นต้น
ส่วน Gen ใหม่ เนี่ย ก็คือต่อยอดจากการทำไบโอดีเซล ไปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ตัวหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของ EA จริงๆเสร็จแล้วอยู่ในช่วง Test Run นะครับ คาดว่าสิ้นเดือนนี้ก็น่าจะเรียบร้อยทุกอย่างแล้วก็น่าจะอัพโรงงานตามแผนได้ ซึ่งสินค้านี้คือ สารเปลี่ยนสถานะ (PCM : Phase change material) เป็นสินค้าที่ราคาค่อนข้างสูง และ EA เป็นคนแรกที่ทำจากน้ำมันปาล์มได้ และเป็น green product ไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นไบโอดีเซล
ส่วนโรงไฟฟ้า เรามีโรงไฟฟ้าจากแผงโซลาเซลล์อยู่ 278 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานลม 386 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดก็ COD หมดแล้ว
ทีนี้เรากลับมาดู ตัวไฮไลท์ ของเรากันอีกที ตัว PCM มันคืออะไร ซึ่งคุณอมรก็ได้อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆว่า
PCM เป็นสารชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูดความร้อน และ คลายความร้อน ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เปรียบง่ายๆ เหมือน เราสวมเสื้อตัวหนึ่งที่เป็นได้ทั้ง กันหนาว และ ระบายความร้อนในตัวเดียวกัน ซึ่ง PCM ก็ทำหน้าที่เช่นนั้น ซึ่ง จะบอกว่า ญี่ปุ่นได้เริ่มมีการนำ PCM ไปใช้ในการก่อสร้าง และเป็นกฏหมาย ที่ทุกอาคารที่มีการสร้างขึ้นใหม่ในปีนี้เป็นต้นไปต้องมี PCM เพื่อให้ช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน และลดมลภาวะ
แล้ว PCM นี่ความต้องการจะสูงขึ้นได้ขนาดไหน ซึ่งคุณอมรได้ ให้คำตอบว่า ตอนนี้ตลาดทั้งโลกเนี่ย มีมูลค่าของ ตลาด PCM อยู่ประมาณ 15000 ล้านเหรียญ ซึ่ง ในวัตถุดิบเกียวกับการก่อสร้าง คิดเป็น 30 %
หรือ 4000 กว่าล้านเหรียญ และมีแนวโน้มที่จะโตต่อเนื่อง และข้อได้เปรียบของ EA คือมันเปน BIO PCM ซึ่งเป็น Green Product ทำให้ตลาดต้องการมากกว่า
ซึ่งตอนนี้เราได้รับการตอบรับจากตลาดญี่ปุ่นค่อนข้างดี และคาดว่าจะเริ่มเข้าไปสู่ตลาดอื่นๆ ในปีหน้า
ขอบคุณรูปจาก https://www.eaanywhere.com/filesserver/uploads/51605.jpg
คุณอมรยังให้มุมมองของ EV ในตลาดว่า “มันดูดีกว่าที่คิดนะ ดูได้จากผู้เล่นในตลาด ยกตัวอย่างเช่น Motor Show จะเห็นว่าแต่ละบริษัทจะชู สินค้าประเภทนี่ขึ้นมา และมันก็ส่งผลดีต่อ EA ด้วย และไม่ใช่แค่ประเทศเรา จะสังเกต ว่าต่างประเทศ บริษัทไหนที่ทำเกี่ยวกับเรื่องรถพลังงานไฟฟ้าก็จะดูเด่นขึ้นมาทั้งหมด ณ เวลานี้”
แล้ว ในส่วนของ EV ของมุมมองคุณอมรคิดว่า ในส่วนของธุรกิจ ด้านนี้เราจะแบ่งเรื่องนี้ออกเป็นมุมมองแบบไหนบ้าง
คุณอมรได้ให้มองภาพใหญ่ว่า EV เนี่ยต้องมีอะไรประกอบด้วยบ้างเพื่อให้มันเป็น System
ซึ่งอย่างแรกเลยแน่นอน คือ Battery เปรียบเหมือนเป็น น้ำมัน ต่อมาเป็น EV แบ่งเป็น รถที่ใช้ส่วนตัว กับ
รถสาธารณะ และอย่างที่ 3 คือ สถานีชาร์จ จริงๆ EA เองก็เดินหน้าของเราเอง แต่ก็อยากให้มีผู้เล่นมากขึ้น ซึ่งถ้ามองดู ตอนนี้ EA ก็กิน Market share ไปเกือบ 80 % ได้ในเรื่องจำนวนหัวชาร์จทั้งหมด แล้วถามว่า ในเรื่องของการที่เรามีการติดตั้งขึ้นมาเร็วกว่าตลาด รถEV เนี่ยจะไม่มีคนใช้เนี่ย เราทราบ แต่เราก็รับได้ในเรื่องของการขาดทุน แต่ในสิ่งที่เราได้เนี่ย เราได้วางกลยุทธ์ก่อน ได้เลือก location ได้สร้าง Brand awarenesss ก่อน เพราะฉะนั้น รถ EV ที่เข้ามาเนี่ยก็จะอยากมารู้จักกับเราก่อน ซึ่งตอนนี้เราก็มีสถานีอยู่ในประเทศกว่า 500 สถานี ในโรงแรม ห้าง ร้านอาหาร ซึ่งเราหยุดไปประมาณเกือบ 6 เดือนแล้ว เพราะช่วงนั้นโควิด ทุกที่ก็ lock down กันหมดเลย แต่เราก็จะดำเนินต่อไปให้ตามเป้าที่เราตั้งไว้คือ 1000 สถานีครับ ซึ่งคุณอมรก็มองว่าเรื่องสถานีเนี่ย เป็นจิ๊กซอตัวนึงที่จะทำให้ธุรกิจ EV เนี่ยมันเกิด
ในเรื่องของ Battery 1 Gigawatt-Hour ที่สร้างที่ฉะเชิงเทรา เราสร้างโรงงานเสร็จแล้วเหลือแค่การเก็บงาน แล้วก็นำเครื่องจักรมาติดตั้ง อาจจะเป็นช่วง ปลายปี 63 จะเริ่มมีการผลิตตัว Battery ออกมา
แล้วตัว Battery เนี่ย EA จะไม่ได้สร้างเพื่อขายโดยเฉพาะ แต่จะเป็นการดีลกับ Brand ต่างๆ เพื่อให้ Battery ที่มีความเฉพาะตัวได้สร้างมูลค่าของมัน เช่นเอามันไปอยู่ใน รถ EV ของเรา ใน Ferry ของเรา
แล้วเราก็ทำธุกิจตรงนั้นต่อ เราไม่ได้สร้างโรงงานมาเพื่อขาย Battery เป็นหลัก แต่ในอนาคตเราอาจจะค่อยปล่อยขายออกมา ซึ่งช่วงแรกเราอยากจะ build demand ด้วยตัวเราเองก่อน
ส่วนของ การซื้อ NEX สรุปคร่าวๆ คือ เรามองว่า เรารู้ know how ของเรา ก็คือด้านBattery ด้านรถไฟฟ้า ส่วน NEX ก็รู้ know how ด้าน network และ อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกซ์ ด้านตลาดของรถบัส ซึ่งเราก็มองว่าการควบรวมกับ NEX จะส่งผลดีต่อ System อย่างมีนัยสำคัญ
ถ้าเทียบกับ Tesla เรามองว่าเราเป็น Eco System มากกว่า เราไม่ได้ต้องการเป็นคู่แข่งกับ รถยนต์เจ้าอื่นๆ แต่อยากให้มองเราเป็น Platform ของรถยนต์ไฟฟ้า อยากเป็นคน Provide ให้กับพันธมิตรเจ้าอื่นๆ
และตอนนี้ EV มันพึ่งจะเริ่มต้น เราก็ต้องพัฒนาในเรื่อง ของ Battery ให้มันจุมากขึ้น สถานีก็ต้องชาจไวขึ้น รถยนต์ EV ก็ต้องราคาถูกลง ผมมองว่ายังไง รถ EV มันก็ต้องมา คุณอมรกล่าว
3 ความคิดเห็น
อย่าเยอะ กับกุ กูไม่ใช่ของเล่น
30 เม.ย. 2564 07:14 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
16 ต.ค. 2563 18:39 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
10 ส.ค. 2563 18:20 น.