ทำไมถึงต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing
To slow the coronavirus down, you need to act as if you already have it. This video explains why social distancing matters so much right now
เพื่อที่จะชลอการแพร่กระจายของไวรัสโคโลน่า คุณจำเป็นต้องทำตัวให้เสมือนกับคุณติดไวรัสนั้นแล้ว วีดีโอด้านบนนี้ จะอธิบายถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม ว่าทำไมวิธีการนี้ถึงเหมาะที่สุดกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ซึ่งวันนี้ผมจะมาแปลให้อ่านกันครับ เพราะยังมีบางคนไม่เข้าใจถึงการปฎิบัติตัวในภาวะ หรือ สถานการณ์ในตอนนี้
วันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลกประกาศโรค COVID-19 ระบาดใหญ่ (Pandemic) ซึ่งนับว่าเป็นการแพร่ระบาดในระดับโลกแล้ว
ซึ่งโคโรน่าไวรัสได้แพร่กระจายไปยังจีน เกาหลีเหนือ สหรัฐฯ และ อิตาลี ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนแล้วว่ามีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
มีจำนวนผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างรวดเร็ว เราไม่สามารถหยุดมันได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการชะลอการแพร่กระจาย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการ เป็นไข้ เหนื่อย อ่อนเพลีย และไอ ปวดเมื่อย และ อาการอื่นๆที่ไม่รุนแรง หรือบางคนไม่แสดงอาการเลยก็มี ซึ่ง 80 เปอร์เซนต์จะมีอาการไม่รุนแรง
และส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุ
และการแพร่กระจายของไวรัสนี้ ง่ายมากเพียงแค่การไอหรือจามเท่านั้น หรือสัมผัสเชื้อจากพื้นผิวที่มีไวรัสอยู่แล้วนำมือเข้าปาก ตา หรือจมูก
โดยปกติจะใช้เวลาในการฟักตัวของไวรัส จนออกอาการได้ในเวลาประมาณ 5 ถึง 6 วัน แต่ก็สามารถแพร่เชื้อได้แล้วในระยะเวลาก่อนอาการจะแสดง
ซึ่ง WHO ยังพูดต่อว่า ทุกๆประเทศยังคงสามารถแก้ถึงสาเหตุการเกิดการแพร่ระบาดนี้ได้ แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน
จุดสีเหลืองเป็นตัวแทนของคนที่มีสุขภาพดี เขาได้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปทำงานตามปกติ แล้วเขาก็ไปติดไวรัสโควิด-19 ที่สำนักงาน แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร
ซึ่งในระยะเวลาที่อาการไม่ได้แสดงออกมานั้น เขาสามารถแพร่กระจายไวรัสได้ เขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสเข้าแล้ว และก็ไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบาส
ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปยังผู้อื่นอีก ยกตัวอย่าง เมื่อผู้ติดเชื้อคนหนึ่งไปสนามบาส และแพร่เชื้อให้อีก 3 คน มีคนแก่ 1 คนที่ได้รับแล้วมีอาการรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ส่วนอีก 2 คนไม่มีอาการและไปทำงานปกติ ดังนั้น 3 คนนี้ที่ไปทำงานก็จะแพร่เชื้อต่อๆไป และนี่เป็นกราฟของผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นหากเรายังปฏบัติตัวแบบเดิม
โรงพยาบาลจะล้น และผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา และมีอาการรุนแรงก็จะเสียชีวิตในที่สุด
โดยวิธีการที่เราจะช่วยให้การแพร่กระจายลดน้อยลง หรือหยุดยั้งได้มากที่สุด คือการเว้นระยะห่างทางสังคม (socail distancing) หรือ ให้หยุดการทำงานในออฟฟิศ หรือเปลี่ยนเป็นทำที่บ้านแทน
เรามาดูกราฟของการใช้วิธีการชะลอนี้ครับ เมื่อผู้ป่วยน้อยลง โรงพยาบาลก็มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วย และรักษาหาย พร้อมรับผู้ป่วยใหม่เข้ามา ในปริมาณที่คงที่ และลดลงในที่สุด
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ตอนนี้คือ คุณจำเป็นต้องทำตัวให้เสมือนกับคุณติดไวรัสนั้นแล้ว และเว้นระยะห่างจากคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือหยุดอยู่บ้านไปเลย
ขอบคุณที่ช่วยเหลือสังคมครับ
11 ความคิดเห็น
สมชาติ เรืองสันเทียะ
28 ก.ย. 2564 18:34 น.เซ' ฮายด์
4 มิ.ย. 2564 18:27 น.Kanphitcha Wongyai
15 พ.ค. 2564 19:00 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
16 ต.ค. 2563 18:33 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
15 ส.ค. 2563 18:20 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
10 ส.ค. 2563 18:10 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
10 ส.ค. 2563 18:06 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
25 ก.ค. 2563 18:07 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
23 ก.ค. 2563 22:04 น.Sokung Muragichi
30 พ.ค. 2563 15:43 น.Orawee Sukontha
17 พ.ค. 2563 12:52 น.