คุณแน่ใจแค่ไหนว่าผิวของคุณแพ้ง่ายจริง หรือแค่ระคายเคือง??
คุณแน่ใจแค่ไหนว่าผิวของคุณแพ้ง่ายจริง หรือแค่ระคายเคือง??
บางท่านที่เกิดปัญหาแต่ยังไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็กๆ วัยรุ่นที่รักสวยรักงามตามวัย แต่ยังไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของผิว ทำให้เกิดความวิตกกังวล ไม่มั่นใจหาวิธีสารพัดเพื่อจะแก้ปัญหาผิวด้วยตัวเอง
ผู้เขียนในวัยมหาลัยก็เป็นหนึงในนั้นที่คิดว่าตัวเองเป็นคนผิวแพ้ง่ายมาตลอด เพราะเป็นคนที่ใช้อะไร สิวก็ขึ้นจนคิดว่า มีเครื่องสำอางค์ที่แพ้ถึง90% ซึ่งความจริงไม่ได้ถูกต้องเลย มาทราบเอาตอนทีหลังว่า เป็นเพราะผู้เขียน กังวลกับผิวหน้ามากเกินไป วันนึงต้องบำรุงอย่างดี บำรุงเยอะๆ ผลัดเซลล์ผิวบ่อยๆ จะทำให้ผิวที่เสือมสภาพ หลุดออกไป
ผิวหน้าระคายเคือง เกิดจาก ชั้นเกราะปกป้องที่อยู่นอกสุดของผิว และน้ำมันตามธรรมชาติ บางลง ทำให้ผิว ค่อนข้างไวต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอกได้ง่าย จะคันแบบยุบยิบๆเท่านั้น คือใช้นิ้วแตะๆ ก็จะรู้สึกว่า หายคัน ซึ่งหากพักหน้าให้สภาพหน้ากลับมาแข็งแรง ก็สามารถกลับมาใช้เครื่องสำอางค์ตัวนั้นได้อยู่ แต่ต้องมาดูอีก อาการคันยุบยิบๆของเรามีขุยลอกหรือไม่ ถ้าเป็นขุยๆ จะเกิดจากผิวแห้ง อันนั้นต้องบำรุงด้วยครีมที่อ่อนโยน หรือบำรุงด้วย ไฮยาลูรอน
ผิวแพ้ง่าย เกิดจากภูมิคุ้มกันต่อต้านสารที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์ ซึ่งแต่ละคน อาจจะแพ้สารต่างๆไม่เหมือนกัน ลักษณะอาการจะเป็นผื่นขึ้นรุนแรง ลักษณะผื่น อาจจะคันแบบเห็นได้ชัด คือคันมาก และเป็นลมพิษขึ้น หรืออาจจะคันแบบฝังเข้าไปในผิวลึกเป็นตุ่มลึก
แพ้เครื่องสำอางค์ หาเป็นอาการดังนี้ ควรหยุดใช้ทันที
1.เป็นผื่นลมพิษ หรือ เป็นตุ่มแบบฝังลึกเข้าไปต้องเกาแรงๆถึงจะหายคัน(ไม่แนะนำให้เกานะค๊ะ!!)
2.แสบผิวหน้าและแดง
** หลังจากใช้แล้วเกิดอาการ ให้พลิกไปดูส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ว่ามันสารตัวไหนที่ทำให้มีผลกับการแพ้มากที่สุด และจำสารตัวนั้นไว้ในBlacklist เลยค่ะ
ระคายเคือง
1. ลักษณะผื่นจะเป็นตุ่มหนองเล็กๆ คล้ายๆสิว จะรู้สึกคันแบบตื้นๆ แต่อาจจะมีสิวด้วยมาจากความระคายเคืองทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง แต่สิวจะสุกไวกว่าเป็นเม็ดหัวขาวง่ายกว่าสิวอักเสบ
2.ใช้อะไรก็จะเป็นอาการเดียวกันคือผิว จะมันเยิ้มเร็วกว่าปกติ ผิวไม่เรียบเรียบเนียน มีผื่นแดงเป็นวงกว้าง แต่จะไม่แสบ
3.หน้ามันเกิดจากการใช้เครื่องสำอางค์ หรือหน้ามันเกิดจากการรบกวนผิวหน้ามากเกินไป
สาเหตุของการความระคายเคือง
1. ขัดผิวหน้าเป็นระยะเวลานานเกินไป ในขณะที่ผิวกำลังเปียกน้ำ จะเป็นช่วงที่ผิวบอบบางมากที่สุด เกราะปกป้องผิวซึ่งอยู่ชั้นนอกสุดจะอ่อนแอ
2. ใช้เครื่องสำอางค์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป เช่นเครื่องสำอางค์ที่มี AHA BHA หรือ กรดต่างๆที่ใช้ในการรักษาวิตามิซีในเครื่องสำอางค์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการทำลายเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว
3. ใช้เครื่องสำอางค์ประเภทครีมในปริมาณมากเกินไป ทำให้ผิวเกิดการขับส่วนที่เกินมา ในรูปแบบผด ทำให้เกิดสิว หรือ ผดเล็กๆ
4. ผิวหน้าขาดการบำรุงทำให้ผิวมีลักษณะเป็นขุยลอก ทำให้ผิวชั้นนอกถูกลอกออกไปด้วย
5.ผิวหน้าถูกทำลายโดยเครื่องสำอางค์ที่มีสารอันตราย เช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) สารปรอท
6.ใช้เวชภัณ ที่มีฤทธิ์ทำให้ผิวเกิดการแบ่งตัวและหลุดลอกไวขึ้นเช่น เรตินอยด์(Retinoids)
7.ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือรักษาทางการแพทย์ ด้วยการลอกผิว เช่น Laser /Dermaroller /หรือ Ionto ที่ว่ากันว่าใช้ผลักครีมลงสู่ผิว การใช้เวลาที่มากไป ทำให้เกิดระคายเคืองได้เช่นกัน
วิธิพักผิวจากอาการระคายเคือง
1.งดการขัดหน้า เคล็ดลับในการรักษาสิวของผู้เขียนคือ ใช้ baby wipes และ cleansing water ที่เหมาะกับผิวบอบบาง เช็ดหน้า ก่อนการล้างหน้าก่อนนอน ทุกครั้ง ซึ่งเป็นการผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนโยนที่สุด หรือใครจะใช้นำเกลือ ก็ได้ถ้าเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาสิว หรือเป็นคนที่มีสภาพผิวหน้าแห้งก็ใช้น้ำเกลือได้เช่นกัน
2.งดการโดนแดด พกร่มและทาครีมกันแดดเสมอ เพราะผิวหน้ายังอ่อนแอ แต่ถ้าทาครีมกันแดด อาจจะเลือกกันแดดที่ไม่ใช่รองพื้นหรือ bb และที่สำคัญ ต้องทำข้อที่1 ด้วย เพราะผิวจะต้องทำความสะอาดอย่างหมดจด ก่อนนอนทุกครั้ง
3.ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น PH 5.5 และที่ใช้แล้วไม่ได้ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง
4.ใช้ alovera shooting gel พอกหน้าก่อนนอน เพื่อปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ
5.งดใช้เครื่องผลิตที่มีสารสเตียรอยด์ แต่ถ้าหากคุณหมอแนะนำให้ใช้ ลองปรึกษาว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไรถึงไม่ได้ทำให้ผิวติดสเตียรอยด์ แต่ถ้าติดไปแล้วต้องหยุดและทนไม่ใช้ไปก่อนค่ะ เพราะยิ่งใช่นานๆและเกิดหยุดใช้ ภูมิคุ้มกันที่เคยโดนกดไว้จะมาทำงาน หนักขึ้น คล้ายกับติดยาเสพติด ร่างกายจะขาดไม่ได้
6.งดใช้เครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของ Ethyl Alcohol (Alcohol denat.) แอลกอฮอล์ที่เป็นตัวทำให้เครื่องสำอางค์แห้งไวขึ้น แต่ ต้องสังเกตุว่ามี Alcohol อะไร เพราะบางตัว ใส่เพื่อให้ผลดี เช่น ทำให้เนี้ยครีมเก็บกักความชุ่มชื้น และเพิ่มความหนึด ละลายสารในเครื่องสำอางค์ให้เข้ากัน เช่น Butylene Glycol, Propylene Glycol, Cetyl alcohol, Stearyl alcohol, Oleyl alcohol
7.ใช้เครื่องสำอางค์ในปริมาณที่พอดี เพราะระหว่างที่อยู่ในภาวะนี้ ผิวหน้าจะค่อนข้างไวต่อเครื่องสำอางค์มากกว่าปกติ
8.งดการใช้ เครื่อง ionto ไปก่อน
อย่างไรก็ตามการดูแลที่ดีที่สุด คือดูแลจากภายใน พักผ่อนให้เพียงพอ บริโภคอาหารให้เพียงพอ เพราะผิวของเรามีการผลัดออกในทุกๆเดือนตามกาลเวลา หากไม่ได้รับประทานอาหารที่เพียงพอจะทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างผิวใหม่ที่สดใสมาทดแทนได้ และหากอายุ20 ปี ผิวจะมีการผลัดน้อยลง ทำให้เมื่อมีปัญหาจะหายยากขึ้น จึงจำเป็นต้องดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆค่ะ
8 ความคิดเห็น
ป๋า โจ สาย เปย์
28 ม.ค. 2564 19:57 น.มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
28 ก.ค. 2563 10:20 น.แม่นุช กะ ต้นหอม
23 เม.ย. 2563 16:43 น.นินนี่ แม่เฟิร์น
30 มี.ค. 2563 14:26 น.Prakaimat Poolkaew
11 มี.ค. 2563 00:37 น.Prakaimat Poolkaew
11 มี.ค. 2563 00:37 น.อดิศร ประทุม
11 ม.ค. 2563 21:57 น.สุทิสา การมี
26 ธ.ค. 2562 09:35 น.