เรื่องสอนใจ ฉันต้องพลาดงานศพคุณยายเพื่อเข้าสอบ เพราะโกหกเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ
สวัสดี ชื่อของฉันคือ มีอา คุณรู้จักเรื่องราวของเด็กที่ตะโกนร้องว่า มีหมาป่ามาหรือไม่ อะไรทำนองนั้น และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน
ครั้งหนึ่งตอนที่อยู่ที่โรงเรียน ฉันเหนื่อยมากๆและอยากกลับบ้านแต่ฉันออกจากโรงเรียนตามชอบใจไม่ได้ ดังนั้นฉันเลยพยายามหาข้ออ้าง ฉันทำเหมือนว่าฉันปวดท้องและหลังจากไปห้องพยาบาล นั่นคือจุดที่ทักษะการแสดงของฉันฉายแวว ฉันได้กลับบ้าน
ฉันประหลาดใจมากก็หลอกครูให้เชื่ออะไรสักอย่างนะทำได้ง่ายดาย หลังจากนั้นฉันจึงใช้วิธีแบบนี้บ่อยๆบางครั้งก็ใช้วิธีแต่งเรื่องใหญ่โต เพราะอะไรฉันถึงทำการบ้านหรือข้อสอบไม่ได้ เพราะเจ็บมือและเพื่อให้การแสดงนั้นสมจริง ฉันถึงขนาดพันผ้าพันแผลที่มือไปโรงเรียน ครั้งอื่นๆที่ฉันอยากโดดเรียน ฉันบอกว่าลืมกุญแจหรือไม่ก็ต้องไปหาหมอและใช่ ฉันถึงขั้นปลอมเอกสารให้ครู เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าฉันไปหาหมอมาจริงๆ
โดยส่วนมากฉันจะกลับบ้านหรือไม่ก็ไปบ้านคุณยาย เพราะยายจะทำอาหารในแบบที่มีแต่ยายเท่านั้นที่ทำได้ ฉันรักคุณยายเพราะเราเหมือนกันมาก เราทั้งคู่มีอารมณ์ขันแบบตลกร้าย และชอบเรื่องตื่นเต้นท้าทายแบบเดียวกัน ดังนั้นท่านจึงมักหัวเราะเวลาที่ฉันเล่าให้ฟังว่า คราวนี้ฉันโดดเรียนมาด้วยวิธีอะไร ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังบอกว่าไม่ควรทำแบบนั้นบ่อยเกินไป
ตอนนี้ฉันละอายใจกับเรื่องนี้มากแล้ว แต่ครั้งหนึ่งฉันเคยอยากไปดูหนังเรื่องใหม่และช่วงหัวค่ำโรงหนังก็มักแออัดจอแจ ตั้งนั้นฉันโกหกว่าคุณย่าของฉันตาย และฉันต้องไปงานศพท่าน ดังนั้นครูจึงให้ฉันออกมา คุณอาจถามทำไมฉันถึงทำแบบนั้นและก็คงเพราะวิธีเดิมๆของฉันใช้ไม่ได้ผลแล้ว
คือแบบนี้มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันต้องรายงานหน้าชั้นและฉันไม่พร้อม เพราะงั้นฉันเลยทำสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือพันผ้าพันคอมาและแสร้งทำเป็นไม่มีเสียง ฉันทำแบบนั้นอยู่หลายวันก่อนการรายงานหน้าชั้น ทุกคนจึงเชื่อฉัน ใช่ ฉันหลอกแม้กระทั่งเพื่อนร่วมชั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยอะไร ฉันถูกจับได้เพราะอุบัติเหตุล้วนๆ เก้าอี้ของหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นมีเสียงดัง เอี๊ยดอ๊าด ระหว่างวิชาหนึ่งเขาจึงเปลี่ยนกับอีกตัวที่ดีกว่า แต่แล้วเขาก็บังเอิญทำเก้าอี้ทับนิ้วเท้าฉันตอนลากตัวใหม่มา แล้วฉันก็กรีดร้องทุกคนรวมถึงครูมองมาที่ฉันด้วยอาการตกตะลึง สิ่งเดียวที่ฉันพูดออกมาคือ “ว้าวเสียงฉันกลับมาอย่างปาฏิหาริย์เลย” ไม่จำเป็นต้องพูดต่อเลยว่าคุณครูไม่เชื่ออะไรฉันอีก นับตั้งแต่นั้นเพราะฉะนั้นฉันจึงต้องเลิกทำ
การสอบสำคัญครั้งหนึ่งกำลังใกล้เข้ามา และฉันก็เตรียมตัวมาแล้วฉันตั้งใจเรียนจริงๆเพื่อให้ได้เกรดดีๆและหลังจากนั้น คุณยายของฉันก็ตาย แค่นั้นเลย ฉันจะไม่ได้ยินเสียงท่านตอนฟังเรื่องของฉันได้ทานอาหารของท่านหรือพบท่านอีกแล้ว เรื่องนี้ทำให้ฉันเจ็บปวดมาก แต่การสอบของฉันอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับงานศพเช่นกัน ดังนั้นฉันจึงคุยกับครู อธิบายสถานการณ์ให้ฟังและเธอตอบว่า “โอ้ว คุณยายของเธอไปอีกแล้วหรอหรือเป็นคุณยายคนละคน” “พอได้แล้ว มีอา เธอไม่มีทางหนีการสอบรอบนี้ได้” ฉันตกตะลึง แต่ก็รู้ว่านี่เป็นความผิดฉัน ไม่มีใครเชื่อฉันในสถานการณ์แบบนี้อีกแล้ว ฉันโทรหาพ่อแม่และอธิบายให้พวกท่านฟัง แต่พวกท่านโกรธที่ก่อนหน้านี้ฉันเคยใช้เรื่องคุณยายตายมาเป็นข้ออ้าง จึงบอกว่าฉันต้องจัดการเอาเอง โดยเฉพาะว่าพวกท่านกำลังยุ่งมากกับการจัดงานศพ ดังนั้นแผนสุดท้ายของฉันคือการเข้าสอบ ทำข้อสอบให้เสร็จ จากนั้นไปงานศพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นไม่อาจรวบรวมสมาธิได้เลย น้ำตาของฉันอยู่ลงบนกระดาษ เพราะฉันไม่สามารถหยุดคิดเรื่องที่ว่า ฉันต้องพลาดงานศพเพราะฉันเป็นคนขี้โกหก แต่ฉันก็ยังพยายามจะทำข้อสอบให้เสร็จ ทั้งที่ไม่อาจคิดถึงคนอื่นได้นอกจากคุณยายของฉันและน้ำตาก็ไม่ช่วยอะไร เพราะฉันเคยใช้วิธีนี้มาก่อนครูจึงคิดว่าฉันแกล้งทำ
ฉันไปหาคุณครูเงียบๆแล้วบอกว่า “ได้โปรดให้หนูไปเถอะคุณยายหนูเสียชีวิต” แต่เธอแค่ตอบว่า “ฉันไม่เชื่อเธอหรอกมีอา” ไปนั่งและทำข้อสอบให้เสร็จ ฉันจึงต้องตัดสินใจย่อมสอบตกในการสอบครั้งสำคัญนี้ ที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเกรดเฉลี่ยรวมทั้งหมดหรือจะพยายามทำข้อสอบให้เสร็จ และฉันก็ตัดสินใจว่างานศพของคุณยายสำคัญยิ่งกว่าข้อสอบ ฉันจึงลุกขึ้นแล้วออกจากชั้นเรียน แม้ครูจะไม่อนุญาตให้ฉันไป ฉันวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เปลี่ยนรองเท้าและเรียกแท็กซี่ ใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อให้ไปถึงงานศพทันเวลา ทุกคนที่นั่นร้องไห้ และฉันร้องไห้หนักกว่าใคร ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณยายท่านไม่อยู่กับเราอีกแล้ว และสิ่งที่แย่กว่าคือฉันอาจจะต้องสูญเสียโอกาสสุดท้ายเพื่อบอกลาท่านแม้จะเป็นแค่ในเชิงพิธีก็ตาม
หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อแม่ของฉันไปคุยกับครูนานมากเพื่ออธิบายสถานการณ์ แต่ก็ทำให้รู้ด้วยว่าฉันโกหกไปมากมายขนาดไหน พวกเขาโกรธฉันมากจริงๆ ถึงพ่อฉันจะประทับใจนิดหน่อยก็ตามแล้วบอกคุณครูว่าพวกเขาจะเข้มงวดกับฉันให้มากนับจากนี้
ฉันได้เข้าใหม่และสอบผ่านและตอนนี้พ่อแม่จับตาดูพฤติกรรมของฉันรวมถึงตรวจดูด้วยว่าฉันอยู่ที่โรงเรียนหรือไม่ ทั้งหมดนี้มันงี่เง่ามากแต่ฉันเชื่อว่าคุณยายกำลังมองดูฉันอยู่บนสวรรค์และหัวเราะที่สุดท้าย ฉันก็ทำให้ตัวเองเจอปัญหา หนูรักคุณยายนะคุณยายเป็นคู่หูตัวแสบที่ดีที่สุดเท่าที่เด็กผู้หญิงคนนึงจะมีได้เลย
1 ความคิดเห็น
มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
28 ก.ค. 2563 11:38 น.