น้ำจืดมาจากไหน และมีมากแค่ไหนบนโลกนี้
เมื่อแรกเกิดร่างกายเราประกอบด้วยน้ำ 75% น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญจนชั่วชีวิต หากไม่มีน้ำจืดเพียงสัปดาห์เดียว เราก็ไม่สามารถอยู่ได้ ไม่มีน้ำก็ไม่มีชีวิต ทั้งสำหรับระบบนิเวศ สังคมและบุคคล
แล้วน้ำที่ใช้ได้บนโลกนี้มีเท่าไหร่กัน น้ำบนโลกนี้ส่วนมากอยู่ในมหาสมุทร ระบุชัดเจนคือน้ำเค็ม 96.5% ส่วนอีก 2.5%ที่เหลือเป็นน้ำจืด ของเล็กน้อยนี่แหละที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดบนโลกและทำให้อารยธรรมคงอยู่ จะว่าไปแล้ว 2.5% ก็เป็นสัดส่วนที่น้อย ที่ว่าน้อยแล้วนั้น ยังแยกย่อยออกไปได้อีกคือ น้ำผิวดิน น้ำในพืชน้ำแข็ง,เขตน้ำแข็งขั้วโลก และน้ำใต้ดิน
1. ก่อนอื่น จะกล่าวถึงน้ำผิวดิน น้ำสถานะของเหลวทั้งหมดที่อยู่เหนือพื้นดินคือน้ำผิวดินและเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยมาก เพราะ 0.3% ของน้ำจืด คือน้ำผิวดิน อาจดูตรงข้ามกับความเข้าใจเราสักหน่อย แต่เป็นสัดส่วนที่อยู่ในลำธารเล็กๆทั่วโลก แม่น้ำต่างๆเช่น แม่น้ำไนล์ แม่น้ำมิสซิสซิปปี ทะเลสาบ เช่นทะเลสาบวิกตอเรียและเกรทเลค
2. พืชน้ำแข็งและเขตแข็งขั้วโลก คิดเป็น 70% ของน้ำจืดทั้งหมด น้ำส่วนนี้มีความสำคัญ แต่โดยปกติแล้วมนุษย์ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้
3. น้ำจืดส่วนสุดท้ายคือน้ำใต้ดิน ที่เป็นเกือบ 30% ของน้ำจืดทั้งหมดบนโลก ตามชื่อเลยน้ำชนิดนี้อยู่ใต้ดิน มันอาจอยู่นิ่งๆลึกลงไปในถ้ำขนาดใหญ่หรือแอบอิงตามซอกหินและทราย ว่ากันง่ายๆต้องขอบคุณที่มีน้ำใต้ดินให้เรา จริงอยู่เรามองไม่เห็น แต่มันมีปริมาณมากกว่าน้ำผิวดิน พึ่งพาได้มากกว่าและนำมาใช้ได้ง่ายกว่าน้ำแข็ง หากไม่มีน้ำใต้ดินสังคมของเราคงแห้งเหือด
แล้วเราใช้น้ำเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมและจำนวนประชากรที่มากขึ้น ความต้องการใช้น้ำจืดพุ่งสูงขึ้นมากในศตวรรษที่ผ่านมา
แล้วน้ำทั้งหมดนี้แล้วนำไปใช้ทำอะไร
ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่าน้ำจืดเรื่องที่ทั้งโลกกังวล แต่น้ำจืดก็จะอยู่ในเฉพาะพื้นที่เท่านั้น ทะเลทรายสะฮาราย่อมต่างจากเมืองซีแอตเทิล แต่ข้อมูลที่มีอยู่ก็ช่วยเราสืบแนวโน้มหลักได้ว่า ใครและภาคส่วนใดบริโภคน้ำจืดมากที่สุด
คำถามแรกคือใคร
คำตอบคือสหรัฐอเมริกาใช้น้ำมากที่สุดเมื่อเฉลี่ยรายบุคคลเทียบกับประเทศอื่น ตามด้วยยุโรปบางส่วนและประเทศที่กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างจีนและข้อมูลนี้ไม่ได้บอกว่าน้ำถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด ดังนั้นมาดูด้วยมุมมองใหม่กัน
ถามว่าน้ำถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง เกษตรกรรมใช้น้ำจืดประมาณ 70% ของทั้งโลกแต่ตัวเลขก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ กระนั้นก็เป็นปริมาณมหาศาลอยู่เหมือนกัน แล้วก็ฟังดูสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร เพราะเราต้องกินต้องใช้น้ำในการเพาะปลูก ยิ่งมีประชากรมาก เราก็ต้องยิ่งต้องมีอาหารมาก ยิ่งร่ำรวยมาก เราก็ยิ่งบริโภคเนื้อมาก แล้วก็ยิ่งต้องใช้น้ำเพื่อผลิตอาหารมาก
นอกจากนี้น้ำจืด 22% ของทั้งโลกใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยการผลิตไฟฟ้า การกลั่นเชื้อเพลิงฟอสซิลและการผลิตสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่ไมโครชิพ กระดาษและเครื่องบิน 70% ใช้กับการเกษตร 22% ใช้ไปกับอุตสาหกรรม แล้วเหลือเท่าไหร่ล่ะ 8% สำหรับการใช้งานในครัวเรือนเช่นทำอาหาร ทำความสะอาด อาบน้ำ บริโภค แต่ถ้าเทียบก็เป็นเหมือนกันน้ำหยดหนึ่งจากน้ำเต็มถึง
2 ความคิดเห็น
มึน เราะ เราชื่อ ตุ๊กตา.
24 ก.ค. 2563 22:37 น.Sugars PiNk
5 เม.ย. 2563 23:09 น.